- Advertisement -
loading...

แค้นฝังใจ!! พี่เขยวัย 63 เลือดร้อน ชักมีดจ้วงอกตัดขั้วหัวใจ น้องเมียดับ ฟังเหตุผลสุดช้ำเก็บกดมานาน


วันที่ 17 มิ.ย. 60 พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล รอง ผกก.สส.บก.น.8 และ พ.ต.ท.ธนูพล จินตาคม สว.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ นำกำลังจับกุม นายลือเททวน ลือลาภ อายุ 63 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ.359/2560 ลงวันที่ 15 มิ.ย. 60 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมของกลางมีดยาว 1 ฟุต 1 เล่ม จับกุมตัวได้ในบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำย่านบางมด

พ.ต.ท.วิชัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รุดตรวจสอบศพ นายนิวัฒน์ ทิวอัครเดช อายุ 61 ปี ถูกคนร้ายใช้มีดแทงเข้าที่ราวนมซ้ายตัดขั้วหัวใจ 1 แผล เสียชีวิตในร้านขายของชำดังกล่าว โดยวันเกิดเหตุ นายลือเททวนซึ่งเป็นสามีของพี่สาวผู้ตายและเป็นเจ้าของบ้าน เป็นผู้แจ้งกับเพื่อนบ้านและตำรวจ ว่า นายนิวัฒน์ ถูกฆ่า โดยทีแรกตำรวจพุ่งปมไปที่เหตุชิงทรัพย์เพราะมีพระเครื่องของผู้ตายสูญหายไป นอกจากนี้ยังสงสัยว่าผู้ตายอาจไปมีเรื่องกับคู่อริจนถูกตามมาฆ่าเนื่องจากเป็นคนโผงผางพูดจาโวยวาย


“เมื่อผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ออกมา ยืนยันว่า มีโลหิตผู้ตายเปื้อนตามร่างกายของ นายลือเททวน พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติอำนาจศาลออกหมายจับ แล้วนำกำลังไปควบคุมตัวมาเค้นสอบสอบปากคำ กระทั่งยอมรับว่าเป็นคนฆ่าน้องชายภรรยาตนเอง เนื่องจากความแค้นที่สะสมมานานกว่า 10 ปี”

ด้าน นายลือเททวน กล่าวว่า แค้นที่ผู้ตายมาอาศัยบ้านนานนับสิบปี วันๆ ไม่ทำอะไร ช่วยภรรยาตนขายของได้ก็เอาเงินไปใช้ ไม่เคยช่วยออกค่าใช้จ่ายภายในบ้าน พอตนพูดก็ด่าทอหาเรื่อง และตนไม่สามารถเถียงสู้ผู้ตายได้จึงเก็บงำความแค้นเอาไว้ กระทั่งช่วงเช้าวันเกิดเหตุกำลังจะออกไปเก็บของเก่า เห็นผู้ตายงีบอยู่ที่เก้าอี้ในบ้าน จึงใช้มีดแทงเข้าที่อกซ้ายตัดขั้วหัวใจไป 1 ครั้ง แล้วออกไปบอกเพื่อนบ้านว่าเกิดเหตุฆาตกรรม จากนั้นก็ใช้ชีวิตตามปกติ


“หลังเกิดเหตุญาติรับศพ ผมก็ไป บำเพ็ญกุศลที่วัดสารอด ถนนสุขสวัสดิ์ จำนวน 3 วัน ไปช่วยงานศพทั้ง 3 วัน จนเสร็จสิ้นพิธีเผาศพ ช่วงนั้นก็ได้แต่จุดธูปขออโหสิกรรมและแผ่เมตตาให้ จนตำรวจมาหาที่บ้านบอกว่าผมเป็นฆาตกร จึงต้องยอมรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน”

ด้าน พ.ต.ท.ธนูพล กล่าวว่า หลังจากนี้จะมอบตัว นายลือเททวน ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการคุมตัวกลับไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ก่อนคุมตัวส่งศาลอาญาธนบุรี ต่อไป


ที่มา: Thairath
Google Plus
- Advertisement -