- Advertisement -
loading...

สลดอีก!! พลทหารถูกทำโทษรุนแรง อวัยวะภายในบอบช้ำจนเสียชีวิต แม่ลั่นไม่เผา จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม


เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 60 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Bom Lung Lang ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอพร้อมบอกเล่าเรื่องราวสุดสลด ซึ่งเกิดขึ้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อมีพลทหารนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจากการถูกลงโทษทางวินัยอย่างหนัก ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อพลทหารคนดังกล่าวต่อมาคือ พลทหารยุทธอินันท์ บุญเนียม ทหารเกณฑ์ค่ายวิภาวดีรังสิต

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวได้ระบุข้อความว่า "ช่วยแชร์กันหน่อยนะครับ" เพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ผู้ตาย ญาติผมเป็นทหารเกณฑ์ถูกขังในเรือนจำทหารแล้วโดนทหารทำร้ายร่างกาย อาการสาหัสมาก อวัยวะภายในบอบช้ำรุนแรง คุณหมอช่วยปั้มหัวใจ 4 รอบแล้ว และได้เสียชีวิตเมื่อเวลา 05.00 น. ที่ผ่านมาครับ จ.สุราษฎร์ธานี"

"ช่วยแชร์กันหน่อยนะครับ" เพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ผู้ตาย
ญาติผมเป็นทหารเกณฑ์ถูกขังในเรือนจำทหารแล้วโดนทหารทำร้ายร่างกาย...
Posted by Bom Lung Lang on Friday, 31 March 2017

ก่อนที่ต่อมา นางเรณู หมดราคี อายุ 40 ปี ที่อ้างตัวเป็นมารดาของพลทหารหนุ่มคนดังกล่าว ได้เดินทางเข้าร้องเรียนกับทาง พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 สุราษฎร์ธานี เพื่อเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน พร้อมกับบอกว่า หากคดียังไม่กระจ่างจะยังไม่ทำการฌาปณกิจ นอกจากนี้นางเรณู ยังได้กล่าวต่ออีกว่า เบื้องต้นแพทย์ได้ชันสูติพบว่าเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกายจนไตทำงานผิดปกติ ซึ่งต้องรอผลเป็นเอกสารในวันจันทร์นี้ แต่ตนเองและครอบครัวมั่นใจว่าบุตรชายถูกทำร้ายร่างกายภายในเรือนจำอย่างแน่นอน แม้จะมีคนอ้างว่าลูกชายถูกทำร้ายร่างกายมาจากด้านนอกก็ตาม


ด้าน พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ได้ประสาน พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวสิน ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องคดีความ และจะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย


อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ยังเป็นที่สับสน เพราะผู้โพสต์ยืนยันว่า พลทหารยุทธอินันท์ บุญเนียม ทหารเกณฑ์ รูปขวามือ เป็นคนๆ เดียวกันกับ พลอาสาสมัคร เหล่าทหารสารวัตร รูปซ้ายมือ ซึ่งไม่ใช่ทหารเกณฑ์ และนางเรณู หมดราคี อายุ 40 ปี ที่ได้เดินทางเข้าร้องเรียนกับทาง พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 ยังไม่ทราบว่าเป็นญาติหรือไม่อย่างไร เพราะคนละนามสกุลกัน คงต้องรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริง และตรวจสอบข้อมูลสาเหตุการทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตที่ถูกต้องเสียก่อน ไม่ควรรีบด่วนนำมาเป็นประเด็นโจมตี กล่าวร้ายทหารในภาพรวม และกระทบขวัญกำลังใจผู้ที่กำลังมาเกณฑ์ทหาร และญาติพี่น้องในช่วงนี้


สำหรับกรณีนี้ อาจจะเป็นการทะเลาะวิวาทและทำร้ายระหว่างทหารที่ถูกต้องโทษคุมขังด้วยกัน ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ผู้คุมเรือนจำ และผู้บังคับบัญชา แต่ถ้าหากเป็นการถูกทำร้ายโดยเจ้าหน้าที่ทหารที่ดูแลการคุมขัง รับรองว่าผู้บังคับบัญชาชั้นสูงไม่เลี้ยงไว้ให้เสียชื่อทหาร จะต้องถูกดำเนินคดีอาญาอย่างถึงที่สุด รวมทั้งผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จะต้องถูกลงโทษทางวินัย โทษฐานปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อผู้เสียชีวิตและญาติพี่น้อง ดังนั้นจึงขอให้รอข้อเท็จจริงเสียก่อนที่จะกดไลค์ กดแชร์ หรือโพสต์กล่าวประนามหยามเหยียดทหาร

ที่มา: เฟซบุ๊ก ‎Bom Lung Lang
Google Plus
- Advertisement -