จากกรณีการหายตัวไปอย่างลึกลับของ นายฉวี อินทระ อายุ 57 ปี ยุติธรรมจังหวัดพังงา และ ผอ.สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพังงา ก่อนพบเป็นศพถูกฆ่ายัดถังโบกปูนอำพรางทิ้งในคลองบ้านแสงวิมาน ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง ก่อนจะสืบทราบต่อมาว่าถูกลวงไปฆ่าโดยแฟนหนุ่มของหญิงสาวที่มีสัมพันธ์กับนายฉวีทางเฟซบุ๊ก (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: สยอง!! พบแล้ว "ยุติธรรม จ. พังงา" ที่หายตัวไป ถูกฆ่ายัดถังโบกปูนถ่วงน้ำ เหตุแชทจีบสาวในเฟซบุ๊ก!!)
ส่วนด้านคดีมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก พนักงานสอบสวนชุดคณะทำงานคลี่คลายคดีนี้มั่นใจว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่ง พนักงานอัยการได้ในเร็วๆ นี้ ล่าสุดเมื่อ 09.30 น. วันที่ 5 ก.ย. 2559 พ.ต.อ.ปวร พรพรหมมา ผกก.สภ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.เทียนชัย สะสิสุวรรณ รองผกก.(สอบสวน) สภ.เชียรใหญ่ พ.ต.ท.บรรจบ สงณรงค์ สว.สส.สภ.เชียรใหญ่ พร้อมกำลัง เดินทางมาประสานกับ พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เบิกตัวนายอดิศักดิ์ ทองสมจา อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาหัวโจกหรือหัวหน้าทีมฆ่า นายฉวี อินทระ ยุติธรรมจังหวัดพังงา ที่ตำรวจกก.สส.ภ.8 และตำรวจกก.สส.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้ดูแลและควบคุมตัวนายอดิศักดิ์ไว้ ตั้งแต่รับมอบตัว และได้นำตัวไปฝากควบคุมไว้ที่ห้องขังสภ.เมืองนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
ซึ่งตลอดเวลาที่ถูกควบคุมตัวหลังการเข้ามอบตัว นายอดิศักดิ์ยังยืนยัน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น แม้ว่าจะมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เข้าพูดคุยกับนายอดิศักดิ์ชี้แจงให้รู้ว่า หากกระทำผิดจริงก็ขอให้รับสารภาพ เนื่องจากการรับสารภาพจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เป็นทางหนึ่งที่อัตราโทษที่มีสูงถึงขั้นประหารชีวิต อาจได้รับความปรานีจากศาล ลดหย่อนโทษให้ แต่ปรากฏว่านายอดิศักดิ์ยังยืนกรานให้การปฏิเสธโดยไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด
เมื่อเจ้าหน้าที่เบิกตัวออกมาจากห้องควบคุม นายอดิศักดิ์ได้ใช้เสื้อคลุม คลุมปิดบังใบหน้าและศีรษะ รวมถึงกุญแจมือที่ถูกสวมอยู่ด้านหน้า และรีบเดินตามตำรวจชุดสืบสวนที่จูงและประกบขึ้นรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ พ.ต.ท.เทียนชัย สะสิสุวรรณ รองผกก.(สอบสวน) สภ.เชียรใหญ่ เปิดเผยว่า เหตุร่วมกันฆ่าในคดีนี้เกิดขึ้นในเขตอำนาจสอบสวนสภ.เชียรใหญ่ ทางพนักงานสอบสวนสภ.เชียรใหญ่ จึงเป็นผู้รับผิดชอบในกระบวนการดำเนินคดี
ในวันนี้จะเป็นการนำตัวผู้ต้องหารายนี้ ไปยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลจังหวัดปากพนังเป็นผัดแรก ในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตาย โดยเจ้าหน้าที่จะคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหารายนี้ เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ผู้ต้องหากับพวกก่อเหตุอุกฉกรรจ์อย่างอุกอาจ กระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ทารุณกรรมผู้เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมผิดวิสัยปุถุชนทั่วไป
ด้าน พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า คดีนี้แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธแต่ทางตำรวจมีพยานหลักฐานมัดตัวแน่นหนาจำนวนมาก ไม่ต้องห่วง ตำรวจจะทำคดีอย่างโปร่งใสที่สุดขอให้ประชาชนมั่นใจได้ และตำรวจจะคัดค้านไม่ให้ประกันตัวนายอดิศักดิ์อย่างเด็ดขาด โดยทางตำรวจได้ตั้งข้อหาหนักผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย คือ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยทำร้ายเจ้าทรัพย์จนถึงแก่ความตาย ร่วมกันปิดบังซ่อนเร้น อำพรางศพ โดยปกปิดสาเหตุการตาย ซึ่งข้อหาทั้งหมดมีโทษสูงสุด คือ การประหารชีวิต
ทั้งนี้ ที่วัดท่าโพธิ์วรวิหาร ถนนท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ญาติมิตรและผู้รู้จักคุ้นเคย เพื่อนข้าราชการ ทยอยไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ นายฉวี อินทระ ยุติธรรมจังหวัดพังงา และ ผอ.สนง.คุมประพฤติจังหวัดพังงา ที่เสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งญาติได้นำศพบำเพ็ญกุศล ประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดแห่งนี้ โดยมีกำหนดฌาปนกิจศพในวันที่ 6 ก.ย. 2559
- Advertisement -