
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 (บก.น.3) นายประเสริฐ บ่างสมบูรณ์ อายุ 60 ปี และนางจำรัญ บ่างสมบูรณ์ อายุ 57 ปี บิดาและมารดาของนายสมชาย บ่างสมบูรณ์ อายุ 35 ปี น.ส.ดาวเรือง บ่างสมบูรณ์ อายุ34ปี น้องสาว และนายสมัครชัย มะฮะหมัด อายุ 36 ปี ผู้เสียหายและพยานผู้เห็นเหตุการณ์ อ้างว่านายสมชายและนายสมัครชัย ถูกชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ ฝ่ายสืบสวน บก.น.3 เข้าจับกุมข้อหามียาเสพติด และทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ครอบครัวตัดสินใจเดินทางเข้ายื่นหนังสือกับพล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3 เพื่อร้องขอความเป็นธรรม
ด้าน นายประเสริฐ เล่าว่า เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้รับโทรศัพท์จากลูกชายว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าอยู่ฝ่ายสืบสวนบก.น.3 จับกุมในข้อหาครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่าย หากไม่อยากโดนจับ ให้นำเงินจำนวน 20,000 บาท มาจ่าย แลกกับการปล่อยตัว ตนจึงรีบเดินทางไปขอเจรจา ตอนแรกเห็นลูกชายปกติดีเลยบอกกับตำรวจว่าไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น หากลูกชายทำผิดจริง ก็ให้ดำเนินคดีตามกฏหมาย
ต่อมาตำรวจส่งตัวลูกชายไปดำเนินคดีต่อที่ สน.มีนบุรี กระทั่งวันที่ 2 ก.ย. ตนทำเรื่องขอประกันตัวลูก ปรากฏว่าลูกบ่นมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกประมาณ 3-4 วัน ก่อนจะล้มฟุบลงไป แพทย์ลงความเห็นว่าลูกถูกทำร้ายร่างกาย จนม้ามแตก หากไม่มาหาหมอภายใน 1-2 วัน อาจเสียชีวิตได้ ครอบครัวจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 7 ก.ย. โดยส่วนตัวยอมรับว่าลูกชายเคยมีประวัติเสพยาจริง และถูกจับกุมมาก่อน ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างเข้ารับการบำบัด หากลูกทำผิดจริง ก็พร้อมยอมรับ แต่ไม่ควรทำร้ายร่างกายถึงขั้นได้บบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้านนายสมัครชัย เพื่อนของนายสมชาย เล่าว่า ตนและนายสมชายเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ก่อนเกิดเหตุเวลา21.30น. ขณะตนและนายสมชายกำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ที่หมู่บ้านพาทาโกเนีย 2 ถนนรามอินทรา-หทัยราษฎร์ แขวงและเขตมีนบุรี มีรถกระบะมาจอดป้อมหน้าหมู่บ้านและมีชายฉกรรจ์ 5 คน ลงมาจากรถกระบะ จากนั้น 1 ใน 5 ได้โชว์บัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ห้อยคอมา ก่อนเดินเข้ามาพูดกับพวกตนว่า "โทรศัพท์หาคนมาเคลียร์ซะ ไม่งั้นพวกมึงโดนคนละ 10 เม็ดแน่" พร้อมเรียกเงินพวกตนคนละ 10,000-20,000 บาท ระหว่างกำลังโทร.หาญาติ มีการเตะเข้าที่ชายโครงซ้ายและขวาของนายสมชายอย่างแรงรวม 2 ครั้ง จนนายสมชายแน่นิ่งไป จากนั้นตนกับนายสมชายหาเงินมาให้ไม่ได้ กลุ่มชายฉกรรจ์จึงบอกว่างั้นพวกมึงเอานี่ไปเลยแล้วคนละห่อ ก่อนโยนถุงใส่ยาเสพติดมาไว้ตรงหน้า พร้อมถ่ายรูปเอาไว้ จากนั้นก็ให้เซ็นชื่อยอมรับสารภาพ
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวว่า ตอนนี้ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว จากนี้จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้น โดยหมอบหมายให้ พ.ต.อ.กิตภัท เพ็งรุ่ง รอง ผบก.น.3 เป็นหัวหน้าคณะการทำงานสอบสวน เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง ซึ่งตนยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทำผิดจริง ก็จะดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญา โดยไม่มีข้อยกเว้นและให้รายงานผลให้ทราบภายใน 1-2 วันนี้
- Advertisement -