จากกรณีด.ช.ชาญณรงค์ หรือน้องเกล้า อายุ 6 ขวบ ถูกนำตัวส่งร.พ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในสภาพมีบาดแผลที่ใบหน้าและในปากมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก โดยนายอิทธิชัย อายุ 27 ปีผู้เป็นพ่อ ให้การว่ามีอาชีพขายของตามตลาดนัด ส่วนน้องเกล้าปกติแล้วอยู่กับญาติของอดีตภรรยาที่จ.กาญจนบุรี และป่วยเป็นโรคเลือดและโรคลมชัก แต่เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนไปรับมาอยู่ด้วยกันที่ห้องเช่า ช่วงเช้าเข้าไปปลุกลูกที่นอนอยู่ในมุ้งก็พบว่านอนคอพับมีเลือดไหลออกจากปาก จึงนำตัวส่งร.พ.แต่ก็เสียชีวิตในที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ได้นำศพน้องเกล้าส่งชันสูตรอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง พ.ต.อ.พีรพันธุ์ จันทร์เทียน ผกก.สภ.วิเศษชัยชาญ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตนได้ไปตรวจสอบสภาพศพและที่เกิดเหตุภายในห้องเช่า ทำให้พบว่าการเสียชีวิตของน้องเกล้านั้นผิดปกติ ซึ่งตนได้ให้ตำรวจวิทยาการเก็บหลักฐานในห้องเช่าไปตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว จนกระทั้งวันนี้ผลการชันสูตรจากสถาบันนิติวิทยาศาตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี ออกมาแล้วระบุว่าน้องเกล้าเสียชีวิตจากสาเหตุสมองขาดอากาศ จากการอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนต้น ซึ่งก็ต้องรอเอกสารตัวจริงอีกครั้ง จึงได้เรียกพ่อและแม่เลี้ยงของน้องเกล้ามาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
ส่วนที่วัดหลวงสุนทราราม ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เมื่อเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจุดบางจัก พร้อมด้วยนายอิทธิชัยพ่อของน้องเกล้า และนางเชอร์รี่ มารดาได้นำศพของน้องเกล้ากลับมาจากการชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาตั้งบำเพ็ญกุศลก่อนจัดพิธีรดน้ำศพแล้วนำศพบรรจุเข้าโลงเย็น โดยจากสภาพศพของน้องเกล้าพบว่าบริเวณใบหน้ามีร่องรอยฟกช้ำและบาดแผลจากรอยข่วนอย่างชัดเจน
นายอิทธิชัยกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนผิดเองที่ดูแลลูกไม่ดีปล่อยให้ลูกนอนเพียงคนเดียว ต่อจากนี้ไปใครจะเล่นกับพ่อ ตอนนี้สังคมกล่าวหาว่าตนและภรรยาใหม่เป็นคนฆ่าลูก ซึ่งจริงๆแล้วตนกับภรรยาใหม่รักลูกมากจะไปฆ่าลูกทำไม ซึ่งตำรวจได้นำเล็บของตนและภรรยาใหม่ไปตรวจสอบแล้ว ผลออกมาอย่างไรตนก็พร้อมรับชะตากรรม อยากให้ตำรวจตามจับกุมคนร้ายที่ฆ่าลูกตนให้ได้ อยากให้ตำรวจไปตรวจสอบภายในห้องเช่าอีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมจะได้เป็นข้อมูลในการตามตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 18.00 น.วันเดียวกัน ที่สภ.วิเศษชัยชาญ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนางสุรีพร อายุ 37 ปีพยาบาลวิชาชีพระดับ 7 ร.พ.แห่งหนึ่งในจ.อ่างทอง ซึ่งเป็นภรรยาใหม่ของนายอิทธิชัย มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยช่วงแรกนางสุรีพรให้การปฏิเสธ จนกระทั่งตำรวจนำพยานหลักฐานที่รวบรวมได้มาแสดง ทำให้นางสุรีพรยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือบีบคอฆ่าน้องเกล้า
โดยเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนเปิดเผยว่า นางสุรีพรรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่ที่บ้านพักในอ.ไชโย จ.อ่างทอง จนกระทั่งมาพบกับนายอิทธิชัย ซึ่งขณะนั้นทำงานเป็นเด็กปั๊มน้ำมัน เมื่อเจอก็รู้สึกชอบพอและตกลงคบหากันแล้วย้ายมาเช่าห้องที่เกิดเหตุอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งมาทราบว่านายอิทธิชัยมีลูกชายและเดินทางไปเยี่ยมลูกที่ป่วยอยู่นาน 2 สัปดาห์ที่จ.กาญจนบุรี แล้วยังรับลูกกลับมาอยู่ด้วยกันที่จ.อ่างทองอีก โดยระหว่างนี้นายอิทธิชัยไม่ค่อยสนใจตนเอาแต่ดูแลห่วงใยลูก ทำให้ตนโมโหที่สามีเอาแต่สนใจลูกติดภรรยาเก่า วันเกิดเหตุตนกลับไปอยู่บ้านพักในอ.ไชโย เมื่อได้เวลาทำงานก็ขับรถออกมาจากบ้านแต่เมื่อขับรถมาถึงอ.วิเศษชัยชาญ ได้ตัดสินใจแวะเข้าไปที่ห้องเช่าโดยไขกุญแจเข้าไปทางประตูด้านหลังพบน้องเกล้านอนอยู่ในมุ้ง จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบสวมถุงมือตรงเข้าไปทำร้ายและบีบคอจนเสียชีวิต ก่อนที่จะห่มผ้าให้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วรีบออกจากห้องไปทำงานตามปกติ โดยล็อกกุญแจไว้เหมือนเดิมทุกอย่าง ที่ทำไปนั้นเนื่องจากโมโหที่น้องเกล้ามาแย่งความรักที่สามีมีให้กับตน
ด้านนายอิทธิชัยเปิดเผยหลังรู้ว่านางสุรีพรภรรยาใหม่เป็นคนบีบคอฆ่าลูกชายตัวเองว่า รู้สึกตกใจและเสียใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าภรรยาที่ตนรักที่สุดจะเป็นคนที่ฆ่าลูกชายที่รักที่สุด แต่ตนก็ไม่คิดโกรธหรืออาฆาตแค้น เพราะนางสุรีพรเป็นคนให้โอกาสตน เหมือนเป็นคนให้ชีวิตใหม่ซึ่งตนรักนางสุรีพรมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นคนฆ่าลูกชายตนก็ให้อภัย เพราะหากชีวิตไม่มีภรรยาคนนี้ ตนก็คงไม่มีชีวิตอยู่มาได้ถึงวันนี้ อยากฝากถึงคนอื่นๆ ที่มีความรัก มีครอบครัวว่า ความรักต้องแยกแยะระหว่างรักลูกกับรักภรรยา ตนขอเพียงอย่างเดียวคืออยากให้นางสุรีพรมาขอขมาศพลูกชายตนด้วย ขอแค่นั้นพอ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา : Khaosod
- Advertisement -