
สิ้นสุดการรอคอยนานหลายสิบปี...“ปัญหาค้าสลากเกินราคา” ที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมาช้านาน กำลังจะถูกปิดประตูตายเสียที หลังบอร์ดสลากฯ งัดกลยุทธ์เด็ดดัดหลังเหล่ายี่ปั๊ว ซาปั๊ว ผู้ค้ารายย่อย มูลนิธิ และสมาคมต่างๆ ที่กอดโควตาสลากฯ แน่นนานหลายปี งานนี้เรียกได้ว่า “ไอ้โม่ง” ต้นเหตุทำสลากเกินราคา คงนั่งกันไม่ติดเป็นแน่...
ล่าสุด (2 ก.ย.58) ที่ประชุมสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ด) มีมติให้สำนักงานสลากฯ จำหน่ายสลาก โดยกำหนดราคาคู่ละ 70.40 บาท ไม่ต้องผ่านยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว แก่ประชาชนเพิ่มอีก 2 รูปแบบ ดังนี้ 1. การซื้อตรง คือ สลากฯ ที่เหลือจากการจัดสรรโควตา (74 ล้านฉบับ) แต่ละงวดมีสลากฯ เหลือประมาณ 1 ล้านฉบับ และ 2. การจองซื้อ คือ สลากฯ ที่สำนักงานสลากฯ จะพิมพ์เพิ่มตามจำนวนที่จองไว้สำหรับงวดถัดไป โดยมีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นช่องทางในการชำระเงิน รวมทั้งมีบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นผู้จัดส่งสลากฯ ทั้งหมด
5 ขั้นตอนสั่งซื้อ-สั่งจองสลากฯ โดยตรงจากสำนักงานสลากฯ ในราคาคู่ละ 70.40 บาท โดยไม่ต้องผ่านยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว 5 เสต็ปง่ายๆ ดังต่อไปนี้
1. ผู้ค้าที่สนใจสั่งซื้อหรือสั่งจองล่วงหน้าต้องมีคุณสมบัติเป็นบุคคลธรรมดา มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ มีบัญชีธนาคารกรุงไทย และได้ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
“ผู้สมัครจะต้องเปิดบัญชีกับธนาคารในสาขาที่ต้องการทั่วประเทศ เนื่องจากระบบนี้จะหักเงินจากบัญชีเงินฝากเท่านั้น” นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย กล่าว
2. ลงทะเบียน ซึ่งการลงทะเบียนสามารถทำได้ 2 ช่องทาง คือ นำสมุดบัญชีธนาคาร พร้อมบัตรประชาชน ไปลงทะเบียน ณ ที่ทำการธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาในวันเวลาทำการ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.นี้เป็นต้นไป หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล www.glo.or.th ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. ตลอด 24 ชั่วโมง

สำนักงานสลากฯ มั่นใจราคาสลากฯไม่เกิน 80 บาทแน่นอน
“สำนักงานสลากฯ พร้อมที่จะเปิดกว้างให้ผู้ค้าสลากฯ ใช้สิทธิ์หรือไม่ใช้สิทธิ์ในการซื้อตรง หรือจองซื้อในงวดไหนก็ได้ และมั่นใจว่า วิธีนี้ จะทำให้ราคาสลากฯ ไม่เกินคู่ละ 80 บาท อย่างแน่นอน” พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าว
“กรณียอดสั่งจองไม่ครบ 10,000 เล่มคู่ จะไม่ได้รับการจัดสรร ทางธนาคารกรุงไทยจะโอนเงินกลับเข้าบัญชีพร้อมคืนค่า ธรรมเนียม ภายในวันสุดท้ายของการจอง” พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าว

เตรียมปิดตำนาน “ไอโม่ง” ต้นเหตุทำสลากฯเกินราคา
4. เริ่มเปิดให้ขายสลากฯ ประเภทสั่งซื้อและสลากฯ สั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 3-7 ตุลาคม 2558 โดยสามารถซื้อตรง-จองซื้อผ่านระบบของทางธนาคารทั้ง 3 ช่องทาง ได้แก่ ผ่านเคาน์เตอร์ของธนาคารกรุงไทยกว่า 1,200 สาขาทั่วประทศ ผ่านระบบตู้ ATM และระบบ NET BANK (อินเทอร์เน็ต) ซึ่งการซื้อหรือจองล่วงหน้าสลากฯ ในแต่ละงวดจะทำธุรกรรมได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งและจะทำรายการได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยก่อนการซื้อและจองล่วงหน้าจะต้องมีเงินในบัญชีเพียงพอชำระค่าสลากฯ และเสียค่าธรรมเนียมให้ธนาคารกรุงไทยครั้งละ 10 บาท
“โดยสำนักงานสลากฯ จะเปิดโอกาสให้ประชาชนซื้อตรงและจองซื้อสลากฯ จากสำนักงานสลากฯ ได้ทุกราย แม้ว่าจะมีโควตากับสำนักงานสลากฯ แล้วก็ตาม เช่น 5 เล่มคู่หรือ 10 เล่มคู่ ก็ซื้อตรงหรือจองซื้อเพิ่มได้ แต่เมื่อรวมแล้วจำนวนสลากฯ ที่ได้รับในแต่ละงวด ต้องไม่เกิน 50 เล่มคู่ หรือ 10,000 ฉบับ” พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ด) กล่าว
เปิดกว้างให้ผู้ค้าสลากฯ ซื้อสลากราคา 70.40 บาทได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว
5. ทางไปรษณีย์ไทยจะจัดส่งสลากฯ และรับสลากฯ แบบด่วนพิเศษ รับประกันเต็มมูลค่าสลากฯ โดยผู้ซื้อสลากฯ จะไปรับสลากฯ ที่ไปรษณีย์ตามที่ลงทะเบียนไว้ภายใน 3 วัน (กทม. 1 วัน) นับถัดจากวันที่ได้รับการยืนยันการชำระเงินค่าสลากฯ เรียบร้อยแล้ว
“ผู้จองล่วงหน้าเมื่อได้รับข้อความสั้นยืนยันการจองทางโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนไว้จะได้รับสลากฯ ที่ไปรษณีย์ปลายทางที่ลงทะเบียนไว้ โดยผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าจะต้องไปรับสลากฯ ด้วยตนเอง โดยแสดงหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน หรือมอบอำนาจ โดยทำหนังสือมอบอำนาจให้กับบุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกัน” นายสมชาย นันตา ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าธุรกิจ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าว
“ขอเตือนคนสั่งซื้อสลากฯ ต้องประมาณตนด้วยได้สลากฯ ไปแล้วขายได้หรือเปล่า อย่าลืมสำนักงานสลากฯ ไม่เคยรับซื้อสลากคืน” ประธานคณะกรรมการสลากฯ เตือนสติ

คนสั่งซื้อสลาก ต้องประมาณตน ซื้อไปขายไม่ได้ แย่แน่นอน

ผู้ค้าสลากฯรายย่อย เฮ!
ที่มา : Thairath
- Advertisement -