จากกรณี น้องบิ๊ก ด.ช.เจษฎา อายุ 13 ปี เด็กยอดกตัญญูหัวใจแกร่ง ที่ร้องเพลงในรายการไมค์หมดหนี้ เพื่อช่วยแม่ ก่อนที่ตัวเองใกล้จะสิ้นลม เพราะป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายมานานกว่า 1 ปี พบเนื้อร้ายในโพรงสมอง และเคยหยุดหายใจตายแล้วฟื้นมาแล้วถึง 2 ครั้งซึ่งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะทราบว่าผลจากการป่วยของตนเองตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา ผู้เป็นแม่ต้องเป็นหนี้สินหาเงินมาช่วยรักษาตนเองจำนวนมาก ซึ่งเมื่อเรื่องราวของน้องบิ๊กแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีผู้ใจบุญจากทั่วประเทศช่วยบริจาคช่วยเหลือน้องเป็นจำนวนมากจำนวนมากกว่า 7.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ในการช่วยเหลือน้องบิ๊กไมค์ปลดหนี้ หรือ ด.ช.เจษฎา เย็นอนงค์ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งในโพรงสมองมีเนื้อร้ายในแกนสมองขนาดใหญ่กว่า 3 ซม.ซึ่งเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายป่วยมานานกว่า1ปี เคยหยุดหายใจตายแล้วฟื้นมาแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะความรักอันบริสุทธิ์ของลูกกับแม่จึงสร้างปาฏิหาริย์ ทำให้น้องไม่ยอมตายแล้วฟื้นมามาได้ถึง 2 ครั้งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งแม่ต้องเป็นหนี้สินหาเงินมาช่วยรักษา และแม่เองก็เคยชวนน้องบิ๊กไปกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย แต่น้องบิ๊กบอกแม่ว่าจะเป็นคนหาเงินใช้หนี้ให้แม่เอง และอยากจะมาขอร้องเพลงในรายการไมค์ปลดหนี้ให้แม่ ก่อนที่จะหมดลมหายใจเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต ซึ่งทางรายการได้ออกอากาศรายการของน้องบิ๊กมาตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนมีผู้ใจบุญจากทั่วประเทศช่วยบริจาคช่วยเหลือน้องเป็นจำนวนมากจำนวนมากกว่า 7.5 ล้านบาท

สำหรับน้องบิ๊ก ได้นอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านเกิด ที่66 หมู่ 5 บ้านหนองคลอง ต.โสกปลาดุก อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ต่อมาทางกองทัพบกทราบข่าวว่าน้องบิ๊กมีความต้องการใฝ่ฝันในชีวิตอยากเป็นทหารมาก ทางพลโทอภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 จึงได้มอบหมายให้ หน่วยทหารกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ โดยกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ นำโดยพ.ท.มลชัย ยิ้มอยู่ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 รักษาพระองค์ กองทัพภาคที่ 1 พร้อมทีมหน่วยแพทย์จากกองทัพภาคที่ 1 เพื่อมา ตรวจประเมินอาการหาแนวทางเข้ามาช่วยรักษาเพิ่มเติมให้กับน้องบิ๊กถึงที่บ้าน พร้อมทั้งแจ้งข่าวดีต่อน้องบิ๊กว่ากองทัพบกพร้อมจะรับน้องเข้ารับราชการเป็นทหารในสังกัดหลังรักษาตัวหายจากโรคนี้และมีอายุครบการเป็นทหาร เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจที่มีความกตัญญูต่อมารดาและมีความเสียสละแก่ผู้อื่น เหมาะแก่การเป็นทหารที่ดีต่อไปในอนาคตของชาติ

น้องบิ๊ก พอทราบข่าว ว่าทีมทหารจะเดินทางไปเยี่ยม น้องก็ดีใจเป็นอย่างมาก ลุกขึ้นเดินออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง พร้อมกับหน้าตาสดชื่นยิ้มแย้ม ทันทีที่พี่ทหารเดินทางมาถึงน้องบิ๊กก็สวมกอด และกล่าวว่ารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับ ขอเป็นกำลังใจให้กับทหารหาญให้มีกำลังใจต่อสู้เพื่อประเทศชาติมาตลอดยาวนานด้วยเช่นเดียวกัน”