
ไม่นานมานี้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ชาวออสซี่ต้องช็อค คุณแม่ติดยาวัย 27 พาลูกน้อยสองคนไปที่ริมแม่น้ำ Murray เพราะต้องการให้เด็กๆจมน้ำตาย!


สำหรับเรื่องการประกันตัว พ่อแม่ของเธอไม่เห็นด้วยด้วยซ้ำ พวกท่านพยายามบอกตำรวจตลอดเวลาว่า "ลูกสาวเป็นบุคคลอันตราย ไม่ควรปล่อยตัวออกมา" แต่ตำรวจก็ยังปล่อยตัวออกมาอยู่ดี แล้วก็เกิดเหตุที่น่ากลัวขึ้น....
หลังออกมาจากคุก ตอนแรกคุณแม่คนนี้ต้องการดูแลลูกให้ดียิ่งขึ้น ซื้อของเล่นให้เด็กๆนานาชนิด แต่ผ่านไปไม่นาน เธอก็รู้สึกเหนื่อย...
"พวกเขาเป็นความยุ่งยาก ไม่ควรถือกำเนิดขึ้นบนโลก" ความรู้สึกนี้ค่อยปรากฏขึ้นในสมองของเธอแล้วก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ
เธอเคยเอ่ยปากบอกเพื่อนคนนึงว่าเธอจะทำให้ลูกจมน้ำตาย แต่เพื่อนก็คิดว่าเธอล้อเล่น ไม่ได้เก็บไปคิดเป็นจริงเป็นจัง
แต่แล้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คุณแม่คนนี้ก็ไปบ้านพ่อแม่ตัวเอง เพื่อไปรับลูกๆแล้วก็ยืมรถของพ่อแม่มาด้วย "หนูจะพาลูกไปตกปลาริมแม่น้ำ" เธอบอกพ่อกับแม่อย่างนั้น เด็กๆได้ยินเข้าก็ดีใจมาก ตอนแรกพ่อแม่เธอไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่ แม้ว่าจะรู้ว่าลูกสาวตัวเองบ้ามาก แค่ก็ไม่เคยคิดว่าเธอจะฆ่าลูกในไส้ตัวเองได้ พวกท่านก็เลยยอมให้ไป

คุณแม่คนนี้ขับรถออกจาก Deniliquin ระยะทาง 70 กิโลเมตรเต็มเพื่อไปถึงริมแม่น้ำ Murray บริเวณ Moama-Echuca เวลาประมาณบ่ายสี่โมงเย็น
บริเวณนี้ห่างไกลออกมามาก แม้ว่าริมแม่น้ำจะมีครอบครัวอื่นๆมาเที่ยวแต่ก็ไม่น่าจะมีใครมาเจอ แต่เนื่องจากการจะฆาตกรรมเด็กถึงสองคนพร้อมกันไม่ง่าย หลังลงจากรถเธอก็เลยให้ลูกชายคนโตไปที่ริมแม่น้ำก่อน แล้วให้ลูกคนเล็กยืนนิ่งๆอยู่บนเนินสูงขึ้นมาแถวนั้น เธอไม่ได้เปิดกล่องอุปกรณ์ตกปลา แต่บอกให้ลูกชายคนโตวัย 9 ขวบเดินไปที่ริมแม่น้ำ "พวกเราไม่ได้มาตกปลาหรอครับแม่?" ลูกชายคนโตสงสัย แม่ยิ้มตอบบอกว่า ยืนอยู่ริมน้ำเย็นสบาย ลงไปว่ายน้ำก็ได้ เด็กน้อยเดินลงไปไม่กี่ก้าว น้ำก็ขึ้นมาถึงน่อง ต้นขา แล้วก็เอว...

มองเห็นลูกชายไม่ยอมเดินลงไปต่อ แม่ก็ทนไม่ไหว เธอเดินลงไปในแม่น้ำ แล้วจับหัวลูกชายกดน้ำ ทำให้เขาหายใจไม่ออก!
เด็กน้อยก็เลยเริ่มดิ้น แม่ก็ใช้แรงกดให้เขาลงไปอยู่ในน้ำทั้งตัว ลูกชายคนเล็กที่ยืนอยู่บนฝั่งเห็นสิ่งที่แม่ทำ ก็รู้ว่ามารดาต้องการอะไร เขาก็เริ่มตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ เสียงของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว กรีดร้องออกมา ทำให้คนอื่นๆที่อยู่บริเวณนั้นก็ได้ยิน แต่ตอนที่พวกเขายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกชายคนเล็กก็ยังตะโกนร้องต่อไป ในขณะที่แม่ยังต่อสู้กับพี่ชายอยู่ในน้ำ
แล้วอยู่ดีๆก็มีเสียงวิ่งมาจากบริเวณพุ่มไม้ แม่นึกว่าเป็นคนหันกลับไปมองด้วยความตระหนก แต่ปรากฏว่า….มันคือสุนัขตัวหนึ่ง

บ่ายวันนั้นบัดดี้มาเล่นริมแม่น้ำตามปกติ แล้วพอมันได้ยินเสียงร้องเรียกของเด็กชาย มันก็เลยรีบวิ่งมาดูที่เกิดเหตุ แล้วก็เห็นว่าเด็กชายคนโตพยายามวิ่งมาที่ฝั่ง ขณะที่แม่ดึงเขาไว้จากทางด้านหลัง เพราะต้องการกดเขาให้ลงไปอยู่ในน้ำ
แล้วบัดดี้ก็ทำในสิ่งที่ใครๆก็คิดไม่ถึง มันรีบวิ่งไปที่แม่ แล้วก็ขัดขวางเธอ
บัดดี้เป็นสุนัขตัวใหญ่ มีแรงเยอะ แม่ที่ติดยามานานสู้แรงมันไม่ได้ กลายเป็นว่าหมาและคนตีกันอยู่ในน้ำ เป็นโอกาสทองของเด็กชาย เขารีบวิ่งขึ้นมาบนฝั่ง ด้วยความกลัวก็เลยลืมน้องชายไปสนิท เขารีบวิ่งไปให้ไกลเท่าที่จะทำได้
พอเขาเริ่มวิ่งช้าลง เขาก็พบว่าบัดดี้ก็ขึ้นมาจากน้ำแล้ว บางทีมันอาจจะรู้สึกว่าตีกับผู้หญิงบ้านั่นเสร็จแล้ว หรือบางทีมันจะรู้ว่าสู้ไม่ไหว ก็เลยไม่สู้ด้วยต่อ มันขึ้นฝั่งมากับเด็กชายคนโต แล้วก็เดินนำเขาเข้าไปในป่า…
หลังจากเดินอยู่พักนึง ในที่สุดก็มาถึงบ้านของเจ้าของบัดดี้ Jess Smith มาพักผ่อนกับเพื่อนๆบริเวณนี้ พอเห็นสุนัขของตัวเองพาเด็กชายแปลกหน้าที่บอบช้ำกลับมาด้วย ทั้งสองก็รีบพาเขาไปส่งโรงพยาบาลทันที จากนั้นเด็กชายก็ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลเด็กในเมลเบิร์น เพื่อบำบัดจิตใจ เนื่องจากเหตุการณ์ที่พี่ชายเจอ ตำรวจก็เลยรีบประกาศจับตัวแม่ แล้วก็เริ่มตามหาตัวน้องชายที่หายไป


แม่ของเด็กๆยอมจำนนรับสารภาพ ทนายของเธอพยายามบอกว่าเธอทำไปด้วยความไร้สติ: "เธอเองก็โศกเศร้าและสับสน เธอไม่รู้ว่าโศกนาฏกรรมแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง" ตามที่แม่ของเด็กๆเล่า พอบัดดี้เห็นลูกชายคนโตวิ่งไปไกลแล้วก็ไม่ตีกับเธอต่อ ตัวมันเองก็วิ่งหนีไป มันอาจจะไม่ได้สังเกตว่าบนเนินมีเด็กชายตัวเล็กอีกคน หลังจากบัดดี้วิ่งจากไป เธอก็เดินไปหาลูกชายคนเล็กที่ยืนตกใจอยู่บนเนิน แล้วก็จับเขาโยนลงไปในน้ำ…
คุณแม่ถูกตั้งข้อหาจงใจฆ่าเด็กชายโดยเจตนา ส่วนบัดดี้ก็กลายเป็นฮีโร่เพราะมันช่วยเหลือเด็กชายไว้ได้หนึ่งคน แต่ Jess Smith เจ้าของบัดดี้กลับไม่ดีใจนัก เพราะหลังจากเกิดเรื่อง รัฐบาลท้องถิ่นคิดว่าการที่บัดดี้เข้าไปจู่โจมแม่เด็กเป็นพฤติกรรมรุนแรง ทำให้เกิดความเสียหาย เป็นหลักฐานว่าบัดดี้เป็นสุนัขที่อันตราย ก็เลยจับมันไปขังไว้
เพื่อที่จะให้บัดดี้ได้กลับบ้านเร็วขึ้น Jess ก็เลยเข้าไปเขียนคำร้องไว้ในเว็บไซต์ Gopetition เพื่อประท้วงเรียกร้องกดดันรัฐบาล และขณะนี้มีผู้คนกว่า 2 หมื่นคนเข้ามาลงชื่อเข้าร่วม

สุนัขที่ช่วยชีวิตเด็กไว้ ควรจะได้รับการตอบแทนที่ดีกว่านี้สิ…
ที่มา: Liekr
- Advertisement -