
จากเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญ เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2560 ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองเพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุบุคคลใช้อาวุธมีดปาดคอผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่ห้องเช่าไม่มีชื่อ เลขที่ 114/5 หมู่ 1 ต.ต้นมะม่วง อ.เมือง จ.เพชรบุรี
โดยที่เกิดเหตุบริเวณหน้าห้องพบร่างของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นอนจมกองเลือด มีญาติและเพื่อนบ้านกำลังให้การช่วยเหลือห้ามเลือด ตรวจสอบพบบาดแผลขนาดใหญ่ ที่บริเวณลำคอด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ กว้างกว่า 5 นิ้ว ลึกถึงเส้นเลือดใหญ่ และมีรอยคล้ายถูกปาดคอเป็นแผลยาวอีก 1 แผล ที่แก้มขวามีแผลถูกฟันอีก 1 แห่ง เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลพระจอมเกล้า
จากการสอบถามเพื่อนบ้าน เล่าว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายสุรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นบิดาของ ด.ญ.เอ โดยพักอาศัยอยู่ในห้องดังกล่าวกับนางหนู ภรรยา และลูกสาวคือ ด.ญ.เอ ผู้บาดเจ็บ และ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบครึ่ง ที่มีอาการออทิสติก ขณะเกิดเหตุเห็นนายสุรินทร์อุ้ม ด.ญ.บี เดินออกไปจากบ้านและรีบปิดประตูพร้อมกับล็อกจากด้านนอก ก่อนจะพาลูกสาวคนเล็กขึ้นรถจักรยานยนต์ขับออกไป จากนั้นไม่นานได้ยินเสียง ด.ญ.เอ ร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อมองลอดกระจกบานเกร็ด พบ ด.ญ.เอ นอนจมกองเลือดอยู่ จึงรีบแจ้งตำรวจ แจ้งแม่เด็ก และพังประตูเข้าไปช่วยเหลือ

โดย นายสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตนมีปากเสียงกับลูกสาวเป็นประจำ เนื่องจากลูกชอบเล่นเฟซบุ๊กคุยกับเพื่อนชาย ไม่ยอมอ่านหนังสือ ซึ่งตักเตือนไปหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ยอมเชื่อ โดยก่อนเกิดเหตุหนึ่งวัน ตนจับหัวลูกสาวโขกกับผนังไปหนหนึ่งแล้ว กระทั่งวันเกิดเหตุ ยังเห็นลูกสาวนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟาหน้าบ้าน ด้วยอารมณ์โมโห จึงคว้ามีดในครัว เดินเข้าไปจ่อที่คอเพื่อจะปาดคอ แต่ลูกสาวใช้มือปัดป้อง จึงมีร่องรอยหลายแผล จากนั้นด้วยความตกใจ ตนจึงปิดประตูห้อง และอุ้มลูกสาวคนเล็กขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง หลบหนีมุ่งหน้ากลับบ้านเกิดที่ จ.พัทลุง แต่มาถูกจับได้เสียก่อน

ด้าน พล.ต.ต.สรไกร พูนเพิ่ม ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี กล่าวว่า คดีนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำไปด้วยความโกรธ ประกอบกับ ไม่ได้เลี้ยงลูกสาวมาตั้งแต่เล็ก จึงมีความผูกพันน้อยกว่าพ่อทั่วไป และจากการตรวจสอบยังพบว่า นายจ้อย เคยก่อคดีไว้จำนวนมาก เคยติดคุกและออกมาบวชเป็นพระที่ จ.ตรัง ก่อนที่จะสึกแล้วหลบหนีคดีฆ่าคนตาย มาอยู่ที่เพชรบุรี ขณะนี้เบื้องต้นได้ตั้งข้อหา พยายามฆ่า และต้องรอสอบปากคำเด็กซึ่งตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.พระจอมเกล้า ล่าสุดอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
ที่มา: Thairath
- Advertisement -