
จังหวัดอุบลราชธานีเป็นเมืองใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำมูลที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากว่า 200 ปี โดยเป็นจังหวัดแรกที่ได้เห็นดวงอาทิตย์ก่อนพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ หลายคนมาเยือนที่นี้แล้ว อยากกลับมาเยี่ยมใหม่อีกครั้ง เพราะที่นี่เราจะพบเจอแต่สิ่งที่ชวนให้หลงใหล โดยเฉพาะผู้คนที่ใฝ่ในธรรมและธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ เหมาะแก่การมาพักกาย พักใจหลุดออกมาจากโลกแห่งความวุ่นวายในเมืองใหญ่
วันนี้จึงมีเรื่องราวของคนที่นี่ ที่ร่วมเติมแต่งเมืองนี้ให้ดูงามขึ้นทุกวัน คือเรื่องของคุณตา และคุณยายคู่หนึ่งที่อุบลฯ ครั้นเมื่อคนทั้งสองได้เกษียณอายุลง จึงร่วมตกลงปลงใจสร้างสวนแห่งความรักเล็กๆให้เกิดขึ้น กับสวนผักที่ปลอดสารพิษ จุดขายของที่นี้คือ ทานแล้วสบายไร้โรคภัยมาเบียดเบียน ... มองไปเห็นเจ้าของสวนเห็นคุณยาย คุณตาอายุปูนนี้แล้วจึงมีคำถามต่อว่า “ทำไมยังแข็งแรง”
เคล็ดลับนั้นท่านไม่สงวนเลยครับ สวนผักนี้ไม่ใช่ว่าจะนำผลผลิตไปขายอย่างเดียวแต่เมื่อถึงเทศกาลบุญที่วัด ตายายก็หอบเอาไปทำบุญที่วัดด้วย อานิสงส์จึงส่งผลให้แข็งแรงแถมอิ่มบุญสบายกาย สบายใจ
แอบถามตากับยายว่า อ้าว!ขายไปแจกไปอย่างนี้จะได้กำไรเหรอตกลงได้รายได้วันละเท่าไหร่ล่ะครับ
คุณยายอมยิ้ม แล้วตอบไปว่า “ได้วันละสองแสน”
คนถามขอนิ่งแป๊บ….ตาโต งงว่าได้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ
ก่อนคุณยายจึงเฉลยว่า
“ที่ว่าสองแสนนั้น ไม่ได้เป็นหน่วยเป็นบาทที่เราคิดเป็นเงินกัน แต่มันคือ “แสนสุข” และ “แสนอิสระ” ต่างหาก"
คนถามกลับร้องอ๋อ แท้จริงแล้วความสุขไม่ได้จากคุณค่าของเงินแต่มาจากคุณค่าของจิตใจ ขึ้นอยู่กับเราจับแง่มุมไหนมาคิด “สุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจ”
คุณยายคุณตาสองท่านนี้จึงเป็นแบบอย่างของผู้ที่มีความสุขที่เกิดจากให้ความรักและความแบ่งปัน
- Advertisement -