
หญิงสาวคนหนึ่งหลังจากที่เธอได้เลิกรากับแฟนหนุ่มแล้ว เธอรู้สึกเสียใจมากๆ แต่เพื่อนชายหนุ่มข้างบ้านก็คอยมาปลอบใจและเอาใจใส่ดูแลเธอเสมอ พาเธอออกมาจากช่วงเวลาที่โศกเศร้านั้น เธอรู้สึกขอบใจชายหนุ่มรายนี้มาก ถึงแม้ว่าตัวเองไม่ได้รักเขา แต่เขาก็ยังคงมาเอาใจใส่ดูแลเธออยู่เสมอ ถ้าได้อยู่กับผู้ชายแบบนี้คงจะไม่ต้องเผชิญกับความเสียใจแน่นอน
ดังนั้น เธอเลยยอมแต่งงานกับชายหนุ่มรายนี้ ทีแรกชายหนุ่มอยากจะพาเธอไปถ่ายภาพแต่งงาน แต่เธอฟังแล้วไม่เห็นด้วย เพราะเธอรู้สึกว่าการแต่งงานของสองคนมันเร็วเกินไป ไม่แน่ว่าสักวันสองคนอาจต้องแยกทางกันไปก็ได้ การถ่ายภาพแต่งงานมันเสียเงินเปล่าๆ

ชายหนุ่มรู้สึกว่าการใช้ชีวิตของพวกเขามีปัญหา ทั้งคู่แม้แต่เวลาที่จะกินข้าวด้วยกันก็ยังไม่มีเลย แต่สำหรับเธอ เรื่องพวกนี้เธอไม่สนใจอะไรเลย ดังนั้นชายหนุ่มจึงตัดสินใจไปซื้อรถจักรยานมาเพื่อขี่กลับบ้านเพื่อมาทำอาหารเที่ยงแล้วกินกับเธอด้วยกัน ตอนแรกๆ เธอไม่เข้าใจในการกระทำของชายหนุ่ม แต่หลังจากที่เธอได้เห็นสภาพที่แฟนหนุ่มของเธอขี่รถจักรยานอยู่ใต้แสงแดด เธอเริ่มรู้สึกใจอ่อนและเริ่มทำอาหารกลางวันแล้วรอเขากลับมากินด้วยกัน และบางทีสองคนก็ออกจากบ้านไปทำงานพร้อมกัน

เมื่อเธอเปิดซองจดหมายนั้นดูพบว่ามีสมุดบัญชีเล่มหนึ่งอยู่ในนั้น และยอดเงินในสมุดบัญชีเล่มนี้มีเพียง 300 หยวนเท่านั้น จากนั้นแฟนหนุ่มของเธอก็เดินออกมาพร้อมบอกกับเธอว่า "จากนี้ไปผมจะฝากเงินให้คุณเดือนละ 300 หยวนถือว่าเป็นเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญให้คุณ งานของคุณไม่มั่นคง ในขณะที่ผมยังหนุ่มผมก็เริ่มเก็บเงินให้คุณ ในอนาคตคุณอยากจะทำอะไรก็ได้ ถึงแม้ว่าเงินเดือนของผมไม่เยอะแต่ผมสัญญา หลังจากนี้ไปจะมี 300 หยวนเป็นของคุณในทุกเดือนแน่นอน"

4 ปีต่อมา ทั้งสองคนได้ซื้อบ้านหลังเล็กๆ หลังหนึ่ง ในระหว่างที่กำลังจัดเก็บย้ายของ เธอได้เปิดภาพถ่ายของทั้งสองคนดู ตัวเองที่อยู่ในภาพถ่ายเหล่านั้นต่างก็มีรอยยิ้มที่มีความสุข ดูแล้วรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขจัง จนถึงขณะนี้เธอเพิ่งเข้าใจว่า ที่แท้ชีวิตของตัวเองมีความสุขมาก

แล้วแฟนหนุ่มก็ได้ยื่นสมุดบัญชีมาให้เธอเก็บเอง เพราะว่าก่อนหน้านี้เขาเองจะเป็นคนที่เก็บ เมื่อเธอได้เปิดสมุดบัญชีดูใหม่ เธอถึงกับต้องตกใจครั้งใหญ่เพราะว่าจากยอดเงิน 300 หยวนในครั้งนั้น ตอนนี้ได้เพิ่มตัวเลขขึ้นอีกมากมาย เธอรู้สึกซึ้งใจมากๆ จนน้ำตาไหล แฟนหนุ่มยิ้มและบอกกับเธอว่า "ความจริงแล้วบางครั้งผมเองก็กลัวอยู่ว่าผมจะสู้ไม่ไหว แต่ผมพูดกับตัวเองเสมอว่า รอดูอีกหน่อยหนึ่ง สักวันคุณก็จะหันมารักผมนี่แหละ ถึงวันนั้นทุกอย่างที่ผมทำก็จะมีคุณค่า ดูสิ ตอนนี้ผมทำแล้ว"
ทั้งคู่ได้กอดกันอย่างมีความสุข จนถึงขณะนี้เธอเพิ่งรู้ว่า ตัวเองได้ตกหลุมรักเขาโดยที่ไม่รู้ตัวมาตั้งนาน
- Advertisement -